สนใจสร้างแบรนด์ครีมกับโรงงานรับผลิตครีมโรงงานผลิตอาหารเสริม คลิกเพื่อดูรายละเอียดได้
อะไรคือ BHA (บีเอชเอ)
BHA (บีเอชเอ) มีชื่อเรียกเต็มๆว่า Beta Hydroxy Acid หรือSalicylic Acid ที่สกัดมาจากเปลือกของต้น Willow บีเอชเอ เป็นสารสกัดที่ใช้ในวงการแพทย์ผิวหนังมานานกว่า 40 ปีแล้ว แต่ใช้รักษาโรคมากกว่า โดยจะผสมในยารักษาหูด ส้นเท้าแตก โรคผิวหนังชนิดอักเสบเรื้อรัง คนที่มีฝ่ามือฝ่าเท้าหนาเพราะว่าบีเอชเอจะมีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังชั้นขี้ไคลผลัดตัวเร็วขึ้น ซึ่งสำหรับการรักษาโรค จะใช้บีเอชเอในระดับความเข้มข้น 0.5-5 เปอร์เซ็นต์
BHA (บีเอชเอ) เป็นสารสกัดที่โด่ดดังในสายสกินแคร์ โดยช่วยในเรื่อง การกระชับรูขุมขนได้ และทำงานกับผิวชั้นบน ช่วยขจัดความมันส่วนเกิน, ป้องกันการอักเสบและกระชับรูขุมขน ทั้งยังมีคุณสมบัติที่ช่วยผ่อนคลายได้ด้วย จึงช่วยลดรอยแดงได้อีกด้วย ส่วนใหญ่คนจะนิยมใช้ BHA (บีเอชเอ) เพื่อผลัดเซลล์ผิวออกเวลามีสิว รักษาสิวบนใบหน้าและช่วยลดความมันบนผิว
ซึ่งจริงๆแล้วการเลือกใช้สกินแคร์ที่มี BHA ผลัดเซลล์ผิวนั้น ไม่ได้ใช้ได้กับทุกคน เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาสิวและผิวมันเท่านั้น ตลอดจนความเข้มข้มใน BHA ก็ยังเป็นสิ่งที่สาวๆควรคำนึงถึงด้วยเช่นกัน ยิ่งเปอร์เซ็นต์มาก ก็จะยิ่งทำให้ความความสามารถในการผลัดเซลล์ หากสาวๆผิวแห้งใช้ อาจทำให้หน้าลอกได้ และโดยปกติแล้วปริมาณที่ใช้ในสกินแคร์จะอยู่ 1 -1.5 เปอร์เซ็นต์ แต่ทั้งทีทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของสาวๆด้วยว่าเหมาะกับความเข้มข้นในระดับแบบไหน…
BHA ทำให้การหลุดลอกของเซลล์เยื่อบุในรูขุมขนช้าลง ป้องกันการอุดตัน และช่วยสลายสิวอุดตัน สิวเสี้ยนชนิดหัวดำและหัวขาวรวมทั้งลดการอักเสบของสิวอักเสบได้
ผลข้างเคียงของ BHA (บีเอชเอ)
BHA (บีเอชเอ) ในปริมาณความเข้มข้นสูงๆก็มีผลเสียต่อผิวหนัง โดยจะทำให้เกิดการระคายเคือง ลอก แดง ทำให้ผิวบางลงและไวต่อ แสงแดด
คำแนะนำก่อนใช้ BHA (บีเอชเอ)
- ไม่ควรทาบริเวณรอบดวงตา ริมฝีปาก ในจมูก หรือบริเวณที่ผิวบอบบาง
- ควรทาเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวเท่านั้น หากมีอาการคัน แสบบริเวณที่ทา ควรล้างออกด้วยน้ำเปล่า
เพื่อให้เปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นลดลง
- หากมีอาการแสบและคันมาก คุณอาจจะกำลังแพ้ BHA (Salicylate Allergy)
- ไม่ควรใช้ BHA ร่วมกับยาทาสิวพวก Benzyl Peroxide และ Retinoid
สรุปแล้ว BHA หรือ Salicylic acid ถือเป็นยาทารักษาสิวที่ได้ผลดี ปลอดภัยและคนท้องและให้นมบุตรก็สามารถใช้ได้ แต่ควรใช้ในปริมาณน้อยถึงจะปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิวได้มากที่สุด เช่น ใช้เฉพาะบริเวณสิวที่หน้า เช้า-เย็น
