3 ช่องทางการส่งออกยอดนิยม เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย หมัดต่อหมัด
การทำธุรกิจ ส่งออก สิ่งสำคัญเลยก็คือการเลือกช่องทางการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศ ที่เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งก็มี 3 ช่องทางยอดนิยม โดยวันนี้เราก็จะมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้เห็นกันอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้นว่าจะเลือกจัดส่งผ่านช่องทางไหนดี
1. การขนส่งทางบก
เป็นช่องทางการขนส่งที่มีมาอย่างยาวนาน และมีราคาค่าบริการถูกที่สุด สามารถใช้ได้ทั้งรถยนต์ รถไฟ และพาหนะอื่น ๆ ที่วิ่งบนถนนหนทางได้ แต่จะมีข้อจำกัดพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อต้อง ส่งออก สินค้าไปยังต่างประเทศ โดยข้อดีข้อเสียของการขนส่งทางบกมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
ข้อดี
- ค่าบริการขนส่ง ถูกกว่าการขนส่งประเภทอื่น
- ขนส่งถึงจุดหมายปลายทางได้ทันที โดยไม่ต้องมีการขนถ่ายสินค้าหลายต่อ
ข้อเสีย
- การขนส่งอาจมีความล่าช้าได้ เนื่องจากสภาพจราจรที่ติดขัด และเส้นทางบางพื้นที่ที่อาจไม่เอื้ออำนวยมากนัก
- ไม่สามารถขนส่งสินค้าไปยังประเทศที่ไม่มีพื้นที่ทางบกติดต่อกันได้
2. การขนส่งทางน้ำ
สำหรับการขนส่งทางน้ำก็มีมานานแล้วเช่นเดียวกัน เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีเครื่องบิน ทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่อยู่ห่างไกลกันต้องใช้วิธีการขนส่งทางเรือเท่านั้น โดยข้อดีข้อเสียของช่องทางการ ส่งออก นี้ได้แก่
ข้อดี
- สามารถขนส่งสินค้าได้ในปริมาณมากต่อครั้ง
- ขนส่งสินค้าไปยังประเทศที่อยู่ห่างไกลและไม่มีพื้นที่ทางบกติดต่อกันได้
- เป็นช่องทางการขนส่ง ที่มีความปลอดภัยต่อสินค้าสูง
ข้อเสีย
- การขนส่งทางน้ำหรือทางเรือจะมีความล่าช้ามาก และไม่อาจกำหนดได้แน่นอนว่าสินค้าจะไปถึงวันเวลาใด
- เมื่อเดินทางไปถึงท่าเรือของประเทศที่ต้องการจัดส่งสินค้าไปแล้ว จะต้องมีการขนถ่ายสินค้าต่ออีก
3. การขนส่งทางอากาศ
เป็นวิธีการ ส่งออก สินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีความทันสมัยและรวดเร็วทันใจ ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเลือกขนส่งสินค้าระหว่างประเทศผ่านทางเครื่องบินมากที่สุด โดยมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง เรามาดูกันเลย
ข้อดี
- เป็นช่องทางการขนส่งสินค้าที่สะดวก และมีความรวดเร็วมากที่สุด
- สามารถกำหนดเวลาการขนส่งที่แน่นอนได้ และขนส่งไปยังประเทศที่อยู่ห่างไกลได้ดี
- มีความปลอดภัยต่อสินค้าสูงมาก
ข้อเสีย
- มีข้อจำกัดในการขนส่งเยอะ เช่น ขนาดของสินค้า และน้ำหนัก ซึ่งอาจจะต้องจัดส่งหลายเที่ยว
- ค่าบริการในการขนส่ง สูงกว่าการขนส่งทางน้ำและทางบกเป็นอย่างมาก
จะเห็นว่าการ ส่งออก ทั้ง 3 ช่องทางต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนั้นใครที่ทำธุรกิจส่งสินค้าออกต่างประเทศ ก็ลองศึกษาดูว่าช่องทางไหนจะคุ้มค่าและเหมาะกับคุณมากที่สุด ซึ่งก็ต้องพิจารณาจากประเภทสินค้าของคุณและปัจจัยอื่น ๆ ประกอบกันด้วย