หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังอยากสร้างแบรนด์สกินแคร์เป็นของตัวเอง ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การตัดสินใจเลือกประเภทครีม เครื่องสำอาง หรือสกินแคร์สักชิ้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแม้ว่าคุณมีประเภทครีมในดวงใจแล้วเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้หมายความ ครีมที่คุณเลือกสั่งผลิตจะขายดีอย่างที่คิดไว้ นั่นเพราะ คุณต้องดูเทรนด์ของลูกค้า เทรนด์ของตลาดด้วย ว่าตอนนี้ลูกค้าชื่นชอบประเภทครีมแบบไหนอยู่? และควรเริ่มต้นจากปัญหาผิวของลูกค้าที่เจอเป็นหลัก

สนใจสร้างแบรนด์ครีมกับโรงงานรับผลิตครีมโรงงานผลิตอาหารเสริมคลิกเพื่อดูรายละเอียดได้

มาทำความรู้จักประเภทครีมยอดนิยมแต่ละแบบ

1.ครีม (Cream)

อีกหนึ่งประเภทครีมบำรุงที่มีเนื้อสัมผัส เนื้อมีความหนืดสูงและเนื้อเข้มข้นที่สุด มีส่วนประกอบของน้ำกับน้ำมันในสัดส่วนที่เท่ากัน  ลักษณะของครีมที่แตกต่างกันยังขึ้นอยู่กับของหนืดเมื่อได้ลองทาลงบนผิว โดยปกติแล้วครีม จัดเป็นสกินแคร์ที่มีความเข้มข้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับสกินแคร์ตัวอื่นๆ  ดังนั้นคุณสมบัติหลักของครีม จึงมักช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื่นให้ผิว เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งและผิวผสม รวมไปถึงคนที่มีผิวแพ้ง่าย

ครีมยอดนิยม 2021 ที่โรงงานนิยมผลิต

ครีมหน้าขาว

• เป็นครีมที่คุณทาแล้วสามารถทำให้หน้าของคุณขาวได้ไวมากขึ้นระยะเวลาที่เห็นผลที่ชัดเจนก็จะกำหนดขั้นต่ำไว้ประมาน 7 วันขึ้นไปซึ่งในครีมหน้าขาวที่ปลอดภัยจะต้องไม่มีสารสเตียรอยด์และจะต้องทำมาจากกรดผลไม้หรือสารสกัดจากธรรมชาติ เพราะว่าผิวหน้าเป็นส่วนที่บอบบางมากจึงต้องการความอ่อนโยนต่อผิวมากที่สุด

ครีมรักษาสิว

• เป็นครีมที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่นิยมนำมาให้โรงงานผลิตครีมเป็นผู้ผลิตให้        โดยครีมประเภทนี้จะช่วยแก้ปัญหาสิวและรักษาสิวให้หายเร็วขึ้นซึ่งจะต้องมีการใส่ส่วนผสมที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาสิว ในขณะเดียวกันก็ต้องปลอดภัยด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้ผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญอย่างโรงงานรับผลิตครีมเป็นผู้ผลิตให้นั่นเอง

ครีมกันแดด

• เป็นครีมที่ช่วยบำรุงและช่วยกันแสงแดดให้ออกห่างจากผิวของคุณซึ่งจะต้องมีส่วนผสมของสารต่างๆเยอะ ดังนั้นจึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชายในการผลิตน่าจะดีกว่า
• ครีมลดริ้วรอย เป็นครีมที่มีสารต่างๆซึ่งช่วยในการลดริ้วรอยให้ดูจางลงสารพวกนี้จะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีเป็นผู้ผลิต เพราะครีมลดริ้วรอยจะต้องมีการใส่ Active Ingredients เข้มข้นและเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สู่ผิวที่ดีที่สุด

ครีมลดริ้วรอย

เป็นครีมที่มีสารต่างๆซึ่งช่วยในการลดริ้วรอยให้ดูจางลง สารพวกนี้จะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีเป็นผู้ผลิต เพราะครีมลดริ้วรอยจะต้องมีการใส่ Active Ingredients เข้มข้นและเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สู่ผิวที่ดีที่สุด

2.โลชั่น (Lotion)

เนื้อสัมผัสมีลักษณะคล้ายกับครีม แต่มีส่วนผสมของน้ำมากกว่า ทำให้โลชั่นมีความเหลวกว่า ใสกว่าและซึมซาบเข้าผิวได้ง่าย สำหรับเนื้อโลชั่นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือเนื้อครีมและเนื้อน้ำนม โดยโลชั่นถูกนำมาใช้เพิ่มใน Step การบำรุงขั้นที่ 2 เพื่อใช้ในการเตรียมผิวก่อนลงเซรั่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงในประเภทครีมอื่นๆให้ฟื้นบำรุงผิวได้ดีขึ้น สำหรับสูตรโลชั่นยอดนิยมจะเน้นอยู่ที่ 3 เรื่อง คือ การทำให้ผิวขาวกระจ่างใส การเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และคุณสมบัติช่วยลดผิวระคายเคืองจากสิว

บทความที่เกี่ยวกับ การเลือกซื้อครีมกันแดด นะคะสนใจกดเข้าไปอ่านเลย

3.อิมัลชั่น (Emulsion)

เป็นประเภทครีมที่มีเนื้อเข้มข้นแต่บางเบา (ซึมเข้าผิวได้ไว ไม่เหนอะหนะ) เมื่อเทียบความต่างแล้ว อิมัลชั่นจะซึมลงผิวได้ไวกว่าครีม หากแบ่งตามเนื้อสัมผัสแล้ว อิมัลชั่น (Emulsion) จะมีเนื้อสัมผัส 2 แบบ คือ เนื้อลิควิดและเนื้อเจล  โดยสรรพคุณหลักๆ ของอิมัลชั่นจะเน้นช่วยเติมและล็อคความชุ่มชื้นไว้ในผิว แถมยังช่วยให้เอสเซ้นส์หรือเซรั่มที่ทาไปก่อนหน้าฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนทุกสภาพผิว

https://www.youtube.com/watch?v=-9ONOBgVx5s

4.มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer)

เป็นประเภทครีมที่มีคุณสมบัติเรื่องเติมเต็มความชุ่มชื่นและฟื้นบำรุงผิว เป็นสารที่ทาลงบนผิวเพื่อเคลือบให้ความชุ่มชื้นคงอยู่บนผิวได้ยาวนาน ส่วนประกอบของ มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) จะประกอบด้วย 1. สารปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน (Occlusive) ช่วยเคลือบผิวเป็นชั้นฟิลม์บางๆ ป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออก และ 2. สารที่ช่วยดูดซับน้ำ (Humectant) สารที่มีสมบัติเก็บกักน้ำไม่ให้ระเหยออกไปจากผิว และดึงน้ำที่อยู่ในชั้นหนังแท้ขึ้นมาจากความชื้น ซึ่งมีผลให้ผิวอิ่มน้ำได้ การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์จะเหมาะกับคนที่มีผิวแห้งและผิวมันมาก

5.เจล (Gel)

เป็นประเภทครีมเนื้อเจลที่เป็นก้อนใส ส่วนใหญ่โปร่งแสง ซึมลงผิวได้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ  มีคุณสมบัติพิเศษที่ซึมเข้าผิวได้ง่าย ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยไม่ทิ้งคราบมันไว้เนื้อเจลมักมีส่วนผสมของ Polymer ซึ่งมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์สามารถอุ้มน้ำไว้ได้มาก เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง ครีมประเภทเจลส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปแบบของ Sleeping Mask, Night Gel ที่เน้นใช้ก่อนนอน เพื่อบำรุงผิวอย่างล้ำลึกตอนกลางคืน เมื่อตื่นขึ้นมาผิวจะอิ่มฟู  ชุ่มชื่นดูสุขภาพดี

เจลยอดนิยม 2021 ที่โรงงานนิยมผลิต

เจลว่านห่างจระเข้

• เป็นเจลที่มีส่วนผสมจากว่านห่างจระเข้ มีลักษณะเป็นเนื้อเจลนุ่มบางเบาซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายเหมาะกับทุกสภาพผิว ใช้พอกหน้า หรือใช้ทาหน้าเพื่อลดอาการระคายเคืองบนผิวได้ โดยว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดการระคายเคืองง่าย ลดการอักเสบของสิว ลดรอยสิว บำรุงผิวขาดน้ำ ให้ชุ่มชื้น เนียนนุ่มมากขึ้น

บทความเกี่ยวกับ วิธีเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่างปลอดภัย นะคะสนใจกดเข้าไปอ่านเลย

6.เซรั่ม/ซีรั่ม (Serum)

เป็นประเภทครีมที่มีเนื้อสัมผัสเหลวใสหรือสีขาวขุ่น คล้ายน้ำมีความหนืด ซึมซาบสู่ผิวได้ง่าย โดยเซรั่มจะเน้นในการใส่สาร Active Ingredients ซึ่งช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวเฉพาะจุด  ซึ่งความเข้มข้นของสารบำรุงผิวที่อยู่ในปริมาณมาก อีกทั้งเนื้อเซรั่มยังมีโมเลกุลเล็กจึงช่วยให้แทรกซึมสู่ผิวได้ไวและแก้ไขปัญหาผิวได้ดี

เซรั่ม/ซีรั่มยอดนิยม 2021 ที่โรงงานนิยมผลิต

• เซรั่มช่วยกระชับรูขุมขน (Pore Tightening Serum)
• เซรั่มช่วยป้องกันสิวและลดรอยดำจากสิว (Anti-Acne Serum)
• เซรั่มช่วยลดริ้วรอย (Anti-Aging Serum)
• เซรั่มช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลบเลือนจุดด่างดำ (Skin-Brightening Serum)

7.เอสเซ้นส์ (Essence)

อีกหนึ่งประเภทครีมบำรุงผิว ที่มีเนื้อสัมผัสเป็น  Water Base มีส่วนผสมของน้ำในปริมาณที่มาก  ซึ่งตัวเอสเซ้นส์ (Essence) ต่างจากเซรั่มตรงที่เอสเซ้นส์มีความเข้มข้นน้อยกว่าเซรั่มและมีเนื้อที่เบาบางกว่า ความพิเศษของเอสเซ้นส์มักใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพการบำรุงผิวให้เซรั่มทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งเอสเซ้นส์ ยังเน้นช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวเฉพาะจุดเช่นเดียวกับเซรั่ม สำหรับประเภทเอสเซ้นส์ที่ยอดนิยมที่สุดมักเป็นเอสเซ้นส์ที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้ากระ โดยเอสเซ้นส์จะเหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งและผิวผสม

บทความเกี่ยวกับ รวมเทคนิค ตั้งชื่อแบรนด์อาหารเสริมให้ปัง! นะคะสนใจกดเข้าไปอ่านเลย

8.บาล์ม (Balm)

เป็นประเภทสกินแคร์ดูแลผิวที่มีเนื้อสัมผัส เป็นบาล์มและมีส่วนผสมของ Oil เยอะกว่าสกินแคร์ประเภทอื่นๆ ครีมบำรุงประเภทมักถูกนำมาใช้ในการบำรุงผิว 3 แบบ คือ คลีนซิ่งบาล์มใช้ล้างเครื่องสำอาง บาล์มบำรุงริมฝีปาก บาล์มทาหน้าเพื่อเคลือบผิวให้ชุ่มชื้น สรรพคุณหลักของบาล์มมักช่วยเรื่องกักเก็บและล็อคความชุ่มชื้นไว้บนผิว  ซึ่งการใช้บาล์มจึงไม่เหมาะกับคนที่ผิวมัน เพราะอาจไปอุดตันละทำให้เกิดสิวได้ง่าย

9. คลีนซิ่งวอเตอร์ (Cleansing  Water)

มาต่อกันที่ประเภทครีมที่ใช้ล้างเมคอัพ เครื่องสำอางสำหรับสาวๆ ซึ่งเรียกกันว่า ‘คลีนซิ่งวอเตอร์ (Cleansing  Water)’ ตัวคลีนซิ่งวอเตอร์มักมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ เพราะว่าต้องใช้ชะล้างเครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้า เนื้อสัมผัสส่วนมากจึงมีลักษณะเป็นน้ำ วิธีใช้คือหยดลงบนสำลีและค่อยๆ เช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้า โดยใช้สำลีหลายแผ่นจนกว่าจะไม่มีคราบเครื่องสำอางติดบนสำลี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื้อสัมผัสของ (Cleansing  Water) จะมีหลากหลาย Texture การเลือกสั่งผลิตทำแบรนด์ครีมประเภทนี้ ควรศึกษาให้ดีก่อนว่า กลุ่มลูกค้าของคุณชื่นชอบเนื้อสัมผัสและคุณสมบัติการล้างเครื่องสำอางแบบไหนมากที่สุด

คลีนซิ่งวอเตอร์ยอดนิยม 2021 ที่โรงงานนิยมผลิต

คลีนซิ่งวอเตอร์ (Cleansing Water)

• คลีนซิ่งวอเตอร์มีลักษณะเป็นน้ำใส ไม่เหนียวเหนอะหนะและมีส่วนผสมของน้ำมันน้อยที่สุด (เมื่อเทียบกับ Cleansing Water ประเภทอื่น) ซึ่งคลีนซิ่งวอเตอร์แบบน้ำมักไม่เหมาะกับคนหน้ามัน เพราะอาจก่อให้เกิการอุดต้นบนรูขุมขนและทำให้เกิดสิวได้ คลีนซิ่งวอเตอร์ สูตรน้ำที่นิยม มักจะต้องเป็นสูตรแบบ Micellar ซึ่งเป็นสารที่สามารถเช็ดคราบเครื่องสำอางแบบน้ำมันบนใบหน้าได้หมดจด

คลีนซิ่งมิลค์ (Cleansing Milk)

• คลีนซิ่งมิลค์จะมีเนื้อสัมผัสคล้ายโลชั่น มีส่วนประกอบของน้ำมันอยู่ด้วย ข้อแตกต่างระหว่าง คลีนซิ่งวอเตอร์ (Cleansing Water) กับ คลีนซิ่งมิลค์ (Cleansing Milk) อยู่ที่แบบคลีนซิ่งมิลค์ (Cleansing Milk) มักมีการใส่สารบำรุงในคลีนซิ่งได้ไม่อั้นและเช็ดล้างออกมาแล้วช่วยบำรุงผิวหน้า ทำให้หนุ่มขึ้นเวลาเดียวกัน สามารถเช็ดเครื่องสำอาง ลิปสติกออกได้ดี แต่ก็อาจะทำให้น้ามันขึ้นและเกิดสิวได้เช่นกัน

 คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil)

• คลีนซิ่งออยล์จะมีเนื้อสัมผัสเป็นน้ำมันส่วนใหญ่และมีส่วนผสมของน้ำน้อยมาก มีลักษณะภายนอกคล้ายคลีนซิ่งวอเตอร์ แต่มีส่วนผสมของน้ำมัน สำหรับสูตรยอดฮิตของ คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil) มักเป็นสูตรที่ต้องใส่  Mineral Oils เพราะมีประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอางหนักๆออกได้ดี แล้วยังทำให้ผิวนุ่มขึ้นอีกด้วย  แต่การใช้ออยล์ล้างหน้าอาจไม่เหมาะกับคนหน้ามันและผิวง่าย เพราะอาจทำให้เกิดสิวขึ้นได้ง่ายขึ้น

คลีนซิ่งเจล (Cleansing Gel)

• เป็นคลีนซิ่งที่ใช้ล้างเครื่องสำอาง ซึ่งมีเนื้อผัสเป็นเจล คล้ายโฟมล้างหน้า ข้อดีของคลีนซิ่งเจลแบบนี้คือ ด้วยความที่ส่วนผสมของน้ำ และสามารถใส่สารบำรุงไปได้ในผลิตภัณฑ์ จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีสรรพคุณบำรุงผิวหน้าไปได้ในตัว (ส่วนใหญ่มักใช้แทนโฟมล้างหน้าได้เลย) นอกจากนี้ยังเหมาะกับทุกสภาพผิวอีกด้วย

บทความเกี่ยวกับ คุณประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ นะคะสนใจกดเข้าไปอ่านเลย

เทคนิคในการเลือกผลิตประเภทครีมดีๆสักอย่าง แนะนำว่า คุณควรเริ่มจากการศึกษาตลาด โดยเลือกเจาะกลุ่มลูกค้าสักประเภทก่อน แล้วเริ่มสำรวจลงลึกไปว่า ลูกค้าประเภทนี้ประสบปัญหาผิวแบบไหน? ช่วยใช้สกินแคร์ ประเภทครีมและเครื่องสำอางแนวไหนเป็นหลัก? และพวกเขามักยอมจ่ายเงินซื้อในราคาเท่าไหร่? เพราะสินค้าที่ขายได้ทุกชิ้น จะทำกำไรได้ก็ต่อเมื่อลูกค้ายอมซื้อ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องรู้ให้ได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร? และสินค้าของคุณจะเข้าไปช่วยพวกเขาได้มากน้อยแค่ไหน?

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ครีม เครื่องสำอาง อาหารเสริมได้ที่นี่ คลิก