เมื่อคุณอยากจะสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองและกำลังหาข้อมูลเพิ่มเติม วันนี้ขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกระบวนการเริ่มต้นของการทำแบรนด์อาหารเสริม เครื่องสำอางกันครับ เริ่มจากว่า คุณจะเริ่มผลิตสินค้าแบบ OEM หรือ ODM ก่อนดี?

หลายคนมักคุ้นเคยกับ 2 คำนี้มาอยู่บ้าง ระหว่าง OEM กับ ODM และบ่อยครั้งก็มักเรียกสับกัน ต้องบอกก่อนครับว่า 2 คำนี้มีความหมายต่างกันครับ
วันนี้ Beauty Cosmet จะมาบอกครับว่าต่างกันอย่างไร

สนใจสร้างแบรนด์ครีมกับโรงงานรับผลิตครีมโรงงานผลิตอาหารเสริมคลิกเพื่อดูรายละเอียดได้

ทำความรู้จัก การผลิตแบบ OEM คืออะไร?

OEM ย่อมาจาก Original Equipment Manufacturer  คือการผลิตสินค้า เครื่องสำอาง อาหารเสริม สกินแคร์ จากโรงงานที่รับผลิตสินค้าประเภทนี้โดยตรง ซึ่งเป็นการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของคุณตั้งแต่ต้นน้ำ ไม่ว่าจะเป็น คิดค้นสูตร วิจัยสูตร สินค้าพร้อมขายอย่างเต็มรูปแบบ จุดเด่นของการทำ OEM คือ คุณสามารถปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์ได้ตามต้องการ จนกว่าสูตรการผลิตจะลงตัว หรือลูกค้าบางรายอาจจะมีสูตรการผลิตสินค้าเป็นตัวเองอยู่แล้ว ก็แค่นั้นสูตรการผลิตเหล่านั้นไปให้โรงงานรับผลิตให้

บทความเกี่ยวกับ วิธีเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่างปลอดภัย นะคะสนใจกดเข้าไปอ่านเลย

เทียบข้อดีของผลิตอาหารเสริม เครื่องสำอางแบบ OEM

สำหรับการสร้างแบรนด์สินค้า อาหารเสริมเครื่องสำอางแบบ OEM มักเป็นที่นิยมสำหรับคนที่เริ่มต้นธุรกิจหลายๆคน เนื่องจากมีทีมที่ค่อยให้คำปรึกษาระหว่างการผลิต ไปจนถึงขั้นตอนพร้อมวางขาย

• มีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษา ปัจจุบันโรงงานที่รับผลิต OEM ส่วนใหญ่มักมีทีมงานที่ดูแลลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารเสริมหลายแห่ง ทำให้พวกเขาเชี่ยวชาญและมีข้อมูลในกลุ่มธุรกิจนี้ดีอยู่แล้ว ซึ่งง่ายแก่เจ้าของแบรนด์ เวลาจะวางกลยุทธ์การขาย
• ไม่ต้องมีความรู้เรื่องสูตรการผลิต เครื่องสำอาง อาหารเสริม เพราะโรงงาน OEM มักเป็นโรงงานที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสูตรโดยเฉพาะ ดังนั้น เพียงคุณบอกความต้องการว่าต้องการผลิตภัณฑ์สรรพคุณอย่างไร เน้นสารสกัดส่วนผสม ประเภทไหน? หลังจากนั้น โรงงาน OEM ก็จะดำเนินการพัฒนาสูตรให้คุณอย่างสมบูรณ์
• ลดต้นทุนการผลิต ซึ่งผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องมีโรงงานเป็นของเอง สำหรับผู้เริ่มต้นทำแบรนด์ การลงทุนทำโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง อาจจะต้องลงทุนสูงและไม่คุ้มเพราะยังไม่ได้ตัวการันตีกำไรที่ชัดเจน ดังนั้น การมองหาโรงงานรับจ้างผลิต จึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยประหยัดต้นทุนได้

ทำความรู้จัก การผลิตแบบ ODM คืออะไร?

ODM ย่อมาจาก Original Design Manufacturer คือการผลิตสินค้าที่มีการทำวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ หากเป็นการผลิตอาหารเสริม ครีม หรือเครื่องสำอาง ก็มีการคิดค้น ทำวิจัย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์ที่สุดโดย จุดเด่นของการทำ ODM อยู่ที่ โรงงานแบบ ODM จะรับออกแบบแบรนด์ ดีไซน์โลโก้ รวมไปถึง ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งเน้นการทำแบรนด์เข้าไปด้วย

เทียบข้อดีของผลิตอาหารเสริม เครื่องสำอางแบบ ODM

สำหรับการสร้างแบรนด์สินค้า อาหารเสริมเครื่องสำอางแบบ ODM มักเป็นที่นิยมสำหรับคนมีเงินลงทุนในการทำแบรนด์ และต้องการที่ปรึกษาอย่างครบวงจร

• ไม่ต้องออกแบรนด์ ดูเรื่องงานดีไซน์เอง เนื่องจากโรงงาน ODM มีทีมคอยให้คำปรึกษาเรื่องการออกแบบ และดูแลตั้งแต่ภาพรวมของแบรนด์และงานดีไซน์ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ของคุณดูแตกต่างจากสินค้าแบรนด์อื่นๆในท้องตลาดได้
• ไม่ต้องมีความรู้เรื่องสูตรการผลิต เครื่องสำอาง อาหารเสริม เพราะโรงงาน ODM มักเป็นโรงงานที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสูตรโดยเฉพาะ ข้อนี้มีความคล้ายกับโรงงานแบบ OEM อยู่ ซึ่งเพียงแค่คุณแจ้งความต้องการในการผลิต ต้องการสินค้าอะไร สรรพคุณแบบไหน เน้นส่วนผสมอะไรเป็นจุดขาย หลังจากนั้นทางโรงงาน จะเริ่มพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ตามที่คุณต้องการ และในกระบวนการนี้ หากผลิตภัณฑ์ยังไม่ได้คุณภาพตามที่ต้องการ คุณสามารถแจ้งปรับปรุงสูตรที่โรงงานได้อีกครั้ง

• ลดต้นทุนการผลิต ซึ่งผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องมีโรงงานเป็นของเอง สำหรับผู้เริ่มต้นทำแบรนด์ การลงทุนทำโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง อาจจะต้องลงทุนสูงและไม่คุ้มเพราะยังไม่ได้ตัวการันตีกำไรที่ชัดเจน ดังนั้น การมองหาโรงงานรับจ้างผลิต จึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยประหยัดต้นทุนได้

ความแตกต่างระหว่าง เครื่องสำอางระหว่าง OEM กับ ODM อยู่ที่รูปแบบของงานบริการที่ต่างกัน การผลิตแบบ OEM เหมาะสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการสร้างแบรนด์ด้วยตัวเอง และดูแลเรื่องการทำแบรนด์เองตั้งแต่ต้นจนจบ ขณะที่การทำ ODM เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการมีแบรนด์เป็นของตัวเอง และไม่เชี่ยวชาญเรื่องของการออกแบบ ดีไซน์ รวมไปถึงการสร้างแบรนด์ จนต้องเลือกใช้ ODM เพราะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญซึ่งคอยให้คำปรึกษา  อย่างไรก็ดี การสร้างแบรนด์แบบ ODM มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า OEM อีกเช่นกัน

เลือกผลิตแบบ OEM หรือ ODM ดี?

เพราะการผลิตทั้ง 2 แบบมีพร้อมทั้งเครื่องจักร และแรงงาน คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินก้อนโต มาลงทุนในส่วนของเครื่องจักร ไม่ต้องจ้างแรงงานในการผลิตสินค้า ลดปัญหาหยุมหยิมเรื่อง เครื่องพัง คนไม่พอ ผลิตสินค้าไม่ทัน ซึ่งมักทำให้เจ้าของแบรนด์หลายคน สินใจไม่ได้เสียที่ว่าจะเริ่มผลิตแบบไหนดี แนะนำว่า ต้องดูที่งบประมาณการผลิตและความถนัดของคุณก่อนเป็นอันดับแรก หากคุณไม่ได้มีเงินลงทุนมากพอ การผลิตแบบ OEM อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

อย่างต่อมา ควรเลือกโรงงานรับผลิตที่มีคุณภาพครับ โดยเลือกจาก รูปแบบของการบริการ การมีทีมงานที่เชียวชาญเพียงพอหรือไม่? ตลอดจน จะต้องเป็นโรงงานที่ได้รับมาตรฐานรับรองการผลิตอย่าง GMP หรือ HACCP เพื่อรับประกันว่า โรงงานรับจ้างผลิตผ่านมาตรฐานการผลิตอย่างสากล

คุณสามารถ อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ธุรกิจการตลาดสร้างแบรนด์ต่อได้ ที่นี่